แฟชั่นสุดซาดิสต์! “สการ์” กรีดเนื้อแล่หนัง สะใจโจ๋ชอบเจ็บ

Thursday, May 12, 2016

“สัก” “เจาะ” ถอยไป! วินาทีนี้แฟชั่นซาดิสต์ใหม่ล่ามาแรงต้อง “กรีด” ผิวหนัง “แล่” เนื้อสดๆ เลือดไหลซิบๆ ที่เรียกว่า “สการ์” (Scar)

ฮือฮาทีเดียวกับ "สการ์" กรีดผิวหนังให้เป็นรอยแผลเป็นนูนตามแบบลวดลายการสัก ซึ่งเจ็บกว่าการสักหลายสิบเท่า แถมมีความเสี่ยงติดเชื้อสูง ทว่าวัยโจ๋ผู้นิยมความเจ็บกลับให้การต้อนรับ...

ฉีกรูปแบบสัก-เจาะ เลาะแล่เนื้อสะใจกว่า

พรชัย แกล้วทนง ผู้เชี่ยวชาญในการกรีดสการ์ เผยผ่านสื่อว่า สการ์มาจากชนเผ่าแถบแอฟริกา สวีเดน อังกฤษ และชนเผ่าพื้นเมืองของแถบสแกนดิเนเวีย ซึ่งมีมานานมากแล้ว

"เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน ได้รู้จักกับนักท่องเที่ยวจากประเทศฝรั่งเศสคนหนึ่งที่จ.ภูเก็ต มาเที่ยวพร้อมใช้บริการสักที่ร้านเรา พอได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้กัน ทำให้เรารู้จักและสนใจแฟชั่นจากการใช้มีดกรีดร่างกาย หรือที่เรียกว่า 'สการ์'

แฟชั่นการสักการเจาะเริ่มอิ่มตัว เมื่อการกรีดเข้ามา จึงถือว่าเป็นการหลีกหนีความจำเจทางด้านศิลปะบนร่างกาย

“เราจะต้องคุยกับลูกค้าก่อน เพื่อสอบถามประวัติและความมั่นใจ เนื่องจากเมื่อทำแล้วไม่สามารถลบได้ โดยพื้นที่ที่นิยมทำคือ บริเวณหัวไหล่และบริเวณช่องท้อง ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นฝรั่งมีทั้งผู้ชายและผู้หญิง โดยแบบที่นิยมมากที่สุดจะเป็นรูปดาวขนาดเล็กสุดประมาณ 1 ชม. และขนาดใหญ่สุดก็ประมาณ 1 คืบ ซึ่งหากต้องการลายใหญ่กว่านั้นก็จะนัดให้มาอีกวันหนึ่ง เนื่องจากกลัวอักเสบและติดเชื้อ ซึ่งก่อนที่จะเริ่มสักสการ์นั้น ลูกค้าจะต้องพักผ่อนให้เพียงพอ งดการเที่ยวและดื่ม”

เขาเล่าขั้นตอนการทำ

"เริ่มจากทำความสะอาดบริเวณที่ต้องการทำด้วยแอลกอฮอลล์ แล้วฉีดยาชา รอประมาณครึ่งชม. ตรวจสอบความชาก่อนลงมือกรีด ใช้มีดผ่าตัดปลายแหลมของแพทย์ โดยการลงมีดแต่ละขั้นตอนนั้นเราจะไม่ร่างแบบก่อน โดยแบบจะอยู่ในหัว ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. แล้วจึงจะทำความสะอาดแผล พันแผลก่อนปิดด้วยฟอยล์เป็นอันเสร็จ โดยเราจะมียาปฏิชีวนะและยาฆ่าเชื้อให้กินอีกตลอด 2 เดือน เป็นอันเสร็จสิ้น ห้ามโดนน้ำ”

เขายังบอกอีกว่าช่วงอายุที่เหมาะสมกับการกรีดสการ์คือ ประมาณ 20-30 ปี เพราะเป็นช่วงที่กล้ามเนื้อไม่มีการเปลี่ยนแปลง สนนราคาคิดเป็นชั่วโมงๆ ละ 2,500 บาทขึ้นไป แล้วแต่รูปแบบความยากง่ายของรูปภาพ

วัยรุ่นไทยเกิดกระแสถามหาสการ์

สแกนร้านสักย่านดังของกรุงเทพฯ

เจ้าของร้านสักย่านตรอกข้าวสาร เล่าให้สื่อฟังว่า เมื่อก่อนลูกค้าส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นชาวต่างชาติ แต่ระยะหลังมานี้ วัยรุ่นไทยเริ่มให้ความสนใจทำสการ์กันมากขึ้น บางเดือนสูงถึง 10 คน

“การกรีดมีดลงบนผิวหนังต้องกรีดให้เบาที่สุด ไม่ควรลึกมาก เพราะหากลึกเกินไปคมมีดอาจไปโดนเส้นเลือดได้ โดยเครื่องมือในการทำทุกชิ้นต้องผ่านการทำความสะอาดมาอย่างดี ประมาณ 2-3 อาทิตย์เนื้อที่เลาะออกก็กลายเป็นแผลเป็น หลังจากทำเสร็จแล้วก็จะมียาปฏิชีวนะ ยาแก้ปวดให้ลูกค้ากลับไปทานต่อที่บ้าน ระยะเวลาในการทำขึ้นอยู่กับลายที่ลูกค้าเลือก หากลายยาก การทำก็จะนานเป็นชั่วโมง ส่วนราคาจะแพงกว่าการสักประมาณ 2-3 เท่า ตั้งแต่ 3,000-10,000 บาท”

เจ้าของร้านสักย่านตลาดนัดตะวันนาบางกะปิ พูดเหมือนกันว่า แฟชั่นการทำสการ์นั้นยังใหม่มากสำหรับวัยรุ่นไทย แต่ช่วงนี้วัยรุ่นจะเข้ามาถามที่ร้านกันมากขึ้น เพราะเห็นมาจากในหนังสือและตามเว็บไซต์ต่างๆ แต่พออธิบายถึงขั้นตอนการทำว่ามันเจ็บมาก และค่าใช้จ่ายสูง หลายคนก็กลัวและไม่กล้าทำ

“แต่ก็มีหลายคนที่พร้อมจะทำสการ์ ลวดลายการทำนั้น ร้านก็ดูแบบมาจากหนังสือลายสักจากต่างประเทศ ซึ่งช่างสักที่ร้านก็กำลังเรียนการทำสการ์อยู่ ส่วนใหญ่ก็ไปเรียนกันที่ย่านสักดังๆ อย่างถนนข้าวสาร สิ่งที่เป็นห่วงคนทำสการ์ก็คือ แผลที่กรีดเสร็จแล้วนั้นต้องดูแลความสะอาดให้ดี และห้ามโดนน้ำ หากดูแลไม่ดีแล้วโอกาสแผลจะติดเชื้อและเน่าก็มีโอกาสสูงเช่นเดียวกัน”

ครั้นเข้าไปส่องโลกโซเชียล ช่างสักผู้ใช้นามว่า Praewa Chompoo ซึ่งมียอดผู้ติดตามในเพจเฟซบุ๊กเกือบหมื่นคน ได้โพสต์เช่นกันว่าแฟชั่นเจ็บตัวแซ่บซี้ดนี้มาแรง

“แฟชั่นเจ็บตัวอีกหนึ่งอย่างที่กำลังมาแรงนั่นคือ 'สการ์' (Scar) หรือการกรีดผิวหนังให้เป็นรอยแผลเป็น...

วัยรุ่นวัยโจ๋ทนได้กันอยู่แล้ว แถมแฟชั่นเจ็บๆ อย่าง "สการ์" กำลังฮิตฮอตในหมู่วัยรุ่นที่นิยมความเจ็บอีกด้วย หลายเสียงของเจ้าของร้านสักต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่ามีวัยรุ่นสนใจเข้ามาทำสการ์กันไม่น้อยทีเดียว...”

แต่เธอเน้นย้ำว่าต้องกรีดโดยช่างที่มีความเชี่ยวชาญ

“แผลหายแล้วมันจะเป็นสีขาวค่ะ เรียกว่ารอยสักสการ์ ต้องใช้ช่างผู้ชำนาญจริงๆ”

ชาวเน็ตสยองทะลุจอ ห่วงติดเชื้อ

ด้วยความที่ Praewa Chompoo จัดเต็มโพสต์รูปหลากหลายลายสักสการ์เลือดไหลซิบๆ แถมบางรูปเห็นมีดที่เลาะแล่ผิวหนังขึ้นมาจะจะ

“แล่เนื้อออกจะเป็นแบบนี้่เหรอ”

ชาวเน็ตส่วนใหญ่รู้สึก “สยอง” “น่ากลัว” “เสียว” “เจ็บ”

“หือ ทารุนจัด”
“เห็นแล้ว เจ็บแทนเลย”

“ถลอกนิดเดียว ก็เกือบร้องไห้ มาถลกหนังกันแบบนี้ นั่งมองก็เกือบขาดใจตายแล้ว”

“สยอง เห็นเลือดแล้วปวดหัวเลย”

“เคยดูคลิป ขอโทษนะค่ะอ้วกแตกเลยค่ะ”

และสิ่งสำคัญ ต่างเป็นห่วงในเรื่องการติดเชื้อ แม้แต่ชาวเน็ตคนต่างชาติที่เข้ามาแสดคงามคิดเห็น

“I would not recommend getting one of these. The skin is a protective barrier against many pathogens that can cause serious infections. Even if the instruments that are used are clean, the skin still remains open after it is done. If an infection is acquired, it may progress to sepsis, which can cause many complications or even death. Very dangerous”

“ติดเชื้อขึ้นมาจะหนาว”

“ไร้สาระมากๆ ที่ต้องเอาตัวเองไปทรมานแบบนี้ แผลติดเชื้อขึ้นมาละถึงตาย”

หมอเตือนคนเลือดหยุดยากห้ามทำ วัยรุ่นต้องคิดไกล

ผู้จัดการ Live สอบถามไปยัง นพ.วรพจน์ ศิรามังคลานนท์ ผู้ก่อตั้งและผู้บริหาร เฮอร์ทิจูด คลินิก (Hertitude Clinic) ถึงผลข้างเคียง

“ข้อแรก ต้องระวังเรื่องการเสียเลือด ยิ่งในเคสที่เลือดออกง่าย ไหลไม่หยุด หรือหยุดยาก ทำไม่ได้แน่นอน และคนที่ทานยาละลายลิ่มเลือด แอสไพริน วิตามินอี น้ำมันตับปลา เพราะมันจะทำให้เลือดไหลเวียนดี ถ้าไปทำหัตถการแบบนี้ เลือดก็จะไหลไม่หยุด

ข้อสอง เนื่องจากแผลค่อนข้างเยอะ ดังนั้นสถานที่ทำ-อุปกรณ์สะอาดมั้ย คนที่ทำมีความรู้ด้าน Sterile technique (วิธีการปฏิบัติเพื่อให้เครื่องมือเครื่องใช้ปลอดเชื้อ)หรือเปล่า เพราะมีโอกาสติดเชื้อสูง ตั้งแต่เชื้อแบคทีเรียซึ่งเกิดบ่อยรักษาง่าย กระทั่งเชื้อไวรัสตับอักเสบ ซิฟิลิส (Siphilis) และที่น่ากลัวสุดคือ เฮชไอวี (HIV-Human immunodeficiency virus)

ข้อสาม บางเคสแผลค่อนใหญ่ การรักษาตัวหลังทำต้องนานมากแน่นอน คนที่ไปทำต้องถามตัวเองว่ามีวิธีการดูแลตัวเองหลังกรีดได้ดีแค่ไหน
ข้อสี่ แผลเป็น คือ เป็นสิ่งที่คาดการณ์ไม่ได้ว่าจะเกิดมากหรือเกิดน้อย ตามรูปที่เค้าทำ ออกมาสวย แต่ถ้าออกมาไม่สวยล่ะ เกิดแผลเป็นไม่สม่ำเสมอ มีรอยนูนบางจุด คนที่ไปทำต้องถามตัวเองว่าจะรับได้มั้ย

ข้อห้า คำว่า scar รักษาไม่ได้นะครับ เป็นแผลเป็นตลอดชีวิต ไม่สามารถใช้เลเซอร์ลบเลือนได้แบบรอยสัก เพราะฉะนั้นต้องคิดให้ดีก่อนทำ”
หมอวรพจน์เข้าใจดีว่าศิลปะการกรีดแผลเป็นเรือนร่างเป็นรสนิยมความชอบส่วนบุคคล แต่ขอฝากเตือนไปยังวัยรุ่น

“ต้องถามตัวเองว่าชอบจริงหรือเปล่า หรือเพราะกระแสนิยม ไปทำตามเทรนด์ สการ์ติดตัวไปตลอดชีวิต ต้องถามตัวเองว่าจะอยู่กับมันไปจนตายได้มั้ย ได้ขนาดไหน ได้จริงหรือ”

ค่าใช้จ่ายเลาะเนื้อสร้างลายค่อนข้างแพง เจ็บระบมทรมานนาน แผลแห้งแล้วก็ไม่ชัวร์ว่าจะสวย อาจมีรอยนูนตะปุ่มตะปั่ม แถมโอกาสติดเชื้อสูงอีก

ดังนั้นควรคิดไตร่ตรองให้รอบคอบ อย่ารีบเกาะกระแสแฟชั่น จนลืมตระหนักผลกระทบต่อร่างกายและอนาคตล่ะ